สำหรับมือใหม่หัดขับหรือผู้ที่ต้องการสั่งซื้อยาง สิ่งที่ควรรู้ก็คือขนาดของยางรถยนต์ที่คุณใช้งานอยู่นั่นเอง เพราะขนาดของยางนั้นมีมาตราวัดที่หลากหลาย หากซื้อมาผิดขนาดก็จะทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ หรือใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นคนมีรถจึงควรเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีดูขนาดยางรถยนต์ที่ถูกต้อง วันนี้ Nexen Thailand มีวิธีดูขนาดยางรถยนต์แบบเข้าใจง่าย ๆ มาฝากกัน พร้อมกับพาทุกคนไปดูว่ายางรถยนต์มีกี่ขนาด เพื่อที่จะได้เลือกซื้อยางรถยนต์ได้อย่างมั่นใจ วิธีดูขนาดยางรถยนต์ฉบับมือใหม่ จำไว้แค่ 3 ตัวเลข! หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเรื่องของการสังเกตและจดจำขนาดยางรถยนต์นั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่บอกเลยว่าแค่จดจำตัวเลข 3 ชุดบนยางรถยนต์ของคุณ ก็ทำให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว เลขชุดที่ว่านั้นอยู่ตรงไหนและหมายถึงอะไรบ้าง มาดูพร้อม ๆ กันได้เลย ตัวเลข 3 ชุดที่บ่งบอกขนาดยางรถยนต์ อยู่ที่แก้มยาง ตัวเลข 3 ชุดที่บ่งบอกถึงขนาดของยางรถยนต์นั้นจะอยู่ที่บริเวณแก้มยางรถยนต์ ซึ่งสังเกตได้ไม่ยาก โดยจะอยู่ในรูปแบบของตัวเลขติดกัน เช่น 225/60F18/100H คุณสามารถนำชุดตัวเลขนี้ไปค้นหาขนาดยางตามเว็บไซต์ขายยางรถยนต์หรือนำไปซื้อตามร้านขายยางได้เลย ตัวเลข 3 ชุดบนแก้มยางหมายถึงอะไรบ้าง?
วันที่ผลิตยางดูได้จาก DOT ซึ่งย่อมาจาก Department of Transportation ซึ่งแสดงอยู่ในวงรีบนแก้มยาง ตัวอย่างในรูปด้านบนเช่น 0121 ความหมายคือ เลข 2 ตัวแรกบอกสัปดาห์ของปีที่ผลิต และเลข 2 ตัวหลังเป็นเลข 2 หลักสุดท้ายของปี ค. ศ ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2000 ขึ้นมา ตามตัวอย่าง คือ ยางเส้นนี้ผลิตในสัปดาห์ที่ 1 ค. ศ. 2021 หรือ เดือน มกราคม ปี ค. 2021 ถ้าเลขเดือนน้อยๆ เหมือนในตัวอย่างเราก็ยังพอใช้นิ้วนับได้ว่ายางของเราผลิตในเดือนไหน แต่ถ้าเลขเดือนเยอะๆ เช่น DOT 3921 เรารู้แล้วว่าเป็นสัปดาห์ที่ 39 แต่เราไม่รู้ว่าเป็นเดือนอะไร ถ้าจะไม่ให้มานั่งนับก็คงลำบาก เว็บเราจึงได้จัดทำตารางเปรียบเทียบ สัปดาห์ / เดือน ขึ้น ต่อจากนี้ถ้าจะเช็ค DOT ยางว่าเป็นเดือนอะไร สามารถดูในตารางนี้ได้เลยครับ ซื้อยางกับทาง Blackcircles มั่นใจได้เลยว่าได้ยางใหม่แน่นอน เพราะทางร้านจะจำหน่ายยางอายุไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันที่ซื้อ สามารถเช็คราคายางได้ที่ลิงค์นี้เลย
โช้คอัพชำรุดหรือฐานยึดหลวม โช้คอัพที่เปรียบเสมือนตัวซัพพอร์ตการกระแทกกระเทือน โช้คอัพไม่ดี ชำรุด การกระแทกบดเสียดของล้อยางกับถนนก็เป็นไปอย่างรุนแรงกว่าปกติ ล้อยางก็เสื่อมชำรุดเร็วขึ้นไปด้วย 7. ล้อไม่สมดุลหรือยางสึกหรอไม่เท่ากัน เรื่องนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการเติมลมยางที่ไม่เท่ากันสองข้างอย่างหนึ่ง หรือเกิดจากการเสียดสีไปกับสภาพถนนที่ไม่ดี ทำให้ล้อสองข้างสึกไม่เท่ากัน และถ้าไม่มีการปรับ ฝืนใช้อย่างต่อเนื่อง สมดุลที่เสียไปแล้วยิ่งทำให้ล้อที่ต้องรับภาระหนักกว่า เสื่อมและสึกหรอเร็วกว่าอีกข้างมากขึ้น 8. สปริงของระบบช่างล่วงอ่อนเกินไปหรือหัก เรื่องนี้ทำให้การกระแทก เสียดสีของล้อมากขึ้น ล้อยางจึงเสื่อมสึกหรอเร็วขึ้น 9. ปรับเบรกไม่สมดุลทั้งล้อข้างซ้ายและข้างขวา เวลาเบรกรถแต่ละครั้ง เป็นการห้ามล้อให้หยุด ซึ่งการหยุดล้อยางที่หมุนมาอย่างเร็วตามแรงขับเคลื่อนจะเสียดสีไปกับถนนทำให้เกิดการสึกหรออยู่แล้ว ถ้าเบรกสองข้างไม่สมดุล การเสียดสีไม่เท่ากัน ข้างที่มากก็สึกหรอเร็วกว่า 10. โครงฐานหรือช่วงล่างเสียศูนย์ ส่งผลให้มีการกระแทกที่แรงกว่าปกติ ทำให้ล้อยางสึกเร็วขึ้น 11. ขับรถยนต์ไม่ชำนาญ มีแนวโน้มที่ยางรถยนต์จะเสียดสีกับขอบถนนจนดอกยางสึกกร่อนเร็วขึ้นได้ เป็นต้น ใช้รถต้องหมั่นเช็คสภาพทุกอย่างตามวันเวลา เพราะความเสื่อมของอุปกรณ์อย่างหนึ่ง มักส่งผลสืบเนื่องไปถึงความเสื่อมของอุปกรณ์อย่างอื่นได้
ยางใหม่จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 40, 000 กิโลเมตร ปัจจุบันในประเทศไทยจะมีคำแนะนำการเปลี่ยนยางเมื่อเดินทางได้ 50, 000 กิโลเมตร หรือมีอายุการใช้งานทุก ๆ 3.
"ได้ทั่วประเทศ" ลุงขำบอก เพียงแต่ต้องลดวันกรีดลงมาสำหรับพื้นที่ที่ค่อนข้างแล้ง อาจจะยึดการกรีดแบบ 2 วัน เว้น 1 วัน เป็นหลัก ขอขอบคุณ ขำ นุชิตศิริภัทรา 37 / 10 ถ. เจิมปัญญา อ. เมือง จ. ตรัง โทรศัพท์ 08-1979-9999 - Advertisement -
ส่วนเมื่อใดที่ควรเปลี่ยนยางก็คือตอนที่ดอกยางลึกไม่ถึง 3 mm. อาการชำรุดของยาง เป็นกรณีที่ขับขี่ไปแล้วยางดันไปสัมผัสกับบางสิ่งที่ส่งผลให้คุณภาพการใช้งานลดลง เช่น โดนของมีคม, กระแทกกับขอบทางอย่างรุนแรง, ขับระยะไกลโดยลมยางต่ำมาก ๆ หรือที่เรียกว่า บดยาง หากเกิดอะไรขึ้นแบบนี้กับยางบ่อย ๆ แนะนำว่าให้รีบเปลี่ยนจะดีที่สุด ไม่ควรใช้งานเกิน 6 ปี แม้จะบอกว่าอายุการใช้งานไม่ใช่ทั้งหมดทว่าแม้ดอกยางจะยังเกิน 3 mm.
สำหรับยางรถมอเตอร์ไซค์ ถือว่าเป็นส่วนที่คอยดูและรักษาได้ไม่ยาก เพราะสามารถสังเกตหรือมองเห็นทุกส่วนของตัวยางอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามีสิ่งผิดปกติก็จะรู้ได้ทันที ระยะเวลาและอายุการใช้งานของยางมอเตอร์ไซค์นั้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 ปี หรือ 10, 000-20, 000 กม.
สาเหตุแรกที่ทำให้ยางล้อรถสึกหรอเร็ว ได้แก่ กรณีที่เติมลมยางไม่ถูกต้อง ไม่ได้มาตรฐาน ยิ่งเติมสองล้อไม่ว่าหน้าหรือหลัง ไม่เท่ากันด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเหตุให้ล้อบางข้างต้องรับภาระมากกว่าอีกข้างเป็นเหตุให้สึกหรอไม่เท่ากัน ข้างที่เสียดสีมากกว่าก็สึกหรอเร็วกว่า และเร็วกว่าอายุการใช้งานด้วย 2. ตั้งแนวศูนย์ล้อไม่ถูกต้อง ปกติศูนย์ล้อรถยนต์ จะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของมุม องศา เพื่อเสริมให้การขับเคลื่อนรถยนต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น มุมแคมเบอร์ มุมคาสเตอร์ มุมโท มุมเอียงแกนบังคับเลี้ยว มุมเลี้ยว มุมทรัสไลด์ ซึ่งแต่ละมุมมีมาตรฐานในการตั้ง ถ้าตั้งไม่ถูกต้อง ก็ส่งผลต่อยางรถยนต์เวลาขับขี่ ทำให้สึกเร็วกว่าการใช้งานปกติ 3. ข้อต่อต่างๆ ของแกนต่อของระบบบังคับเลี้ยวสึกหรอมากหรือหลวม สิ่งนี้มีผลต่อยางรถเวลาที่เลี้ยวผิดปกติอยู่ตลอดเวลา 4. แบริ่งล้อหน้าสึกหรอมากหรือปรับไม่ถูกต้อง ตัวแบริ่งจะมีส่วนในการหมุนของล้อ ถ้าหากมีการสึกหรอหรือปรับไม่ถูกต้องเสียแล้ว การหมุนของล้อย่อมผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนทางตรงหรือเวลาเลี้ยว ส่งผลถึงดอกยางด้วยแน่นอน 5. ช่วงล่างของล้อหน้าหลวม เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งความผิดปกติที่มีผลต่อการหมุนของล้อ ซึ่งต่อเนื่องไปถึงยางรถยนต์ด้วย 6.
ศ.