ที่ ตั้ง ทวีป อเมริกาเหนือ

Friday, 17-Jun-22 00:12:20 UTC

เขตอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Climate) ปรากฏบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ตอนกลางรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ในฤดูร้อน อากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง ฤดูหนาวอากาศอบอุ่นและมีฝนตก พืชพรรณธรรมชาติ เป็นทุ่งหญ้าสลับกับป่าไม้พุ่มเตี้ย เรียกว่า ป่าแคระ (Chaparral) 6. เขตอากาศแบบชื้น กึ่งร้อน (Humid Subtropical Climate) ปรากฏบริเวณภาคกลาง ที่ราบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก มีลักษณะอากาศอบอุ่น ฝนตกตลอดปี ไม่มีฤดูแล้ง พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าไม้ผลัดใบชนิดใบกว้าง และป่าสน 7. เขตอากาศแบบภาคพื้นสมุทรชายฝั่งตะวันตก (Marine Westcoast Climate) ได้แก่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งหันหน้าเข้ารับลมประจำตะวันตก ที่พัดมาจากมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ช่วงฤดูร้อน มีอากาศอบอุ่น ฤดูหนาวมีอากาศไม่หนาวจัด มีฝนตกสม่ำเสมอตลอดปี ไม่มีฤดูแล้ง ที่เด่นชัด พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าไม้เขตอบอุ่น 8. เขตอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีป (Humid Continental Climate) ปรากฏบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 ตอนใต้ของแคนาดา ตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา เป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำในฤดูหนาว ส่วนฤดูร้อนอุณหภูมิปานกลางถึงสูงมากเป็นช่วงที่ มีฝนตกชุก พืชพรรณธรรมชาติมีทั้งป่าไม้ผลัดใบชนิดใบกว้าง และป่าไม้ไม่ผลัดใบ ชนิดมีใบแหลม 9.

ทวีปอเมริกาเหนือ - Google Docs

ภูมิอากาศแบบทุนดรา Tundra climate หรือ ภูมิอากาศแบบอาร์กติก Arctic climate ลักษณะอากาศของเขตนี้ ฤดูร้อนมีระยะเวลาสั้นประมาณ 2-3 เดือน อุณหภูมิในฤดูร้อนเฉลี่ยต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูหนาว อากาศหนาวจัด อุณหภูมิ ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งยาวนานกว่า 6 เดือน ฝนตกน้อย ปริมาณหยาดน้ำฟ้าประมาณ 500 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่ตกในรูปของหิมะ พืชพรรณธรรมชาติได้แก่พวก มอส ตะไคร่น้ำ ไลเคน ส่วนในฤดูร้อนจะมีไม้ดอก ซึ่งเรียกว่า ทุนดราแพรรี จำพวก ต้นอาร์กติกวิลโลว์ อาร์กติกปอบปี เจริญเติบโตในระยะเวลาสั้น ๆ อาร์กติกมอส์ส arctic moss ไลเคน lichen อาร์กติกวิลโลว์ arctic willow 11. ภูมิอากาศแบบทุ่งน้ำแข็ง icecap climate ลักษณะอากาศหนาวจัดตลอดทั้งปี ไม่มีเดือนใดอุณหภูมิสูงกว่าจุดเยือกแข็งเป็นเขตที่ทุรกันดารจนได้รับสมญาว่าทะเลทรายแห่งหิมะ ทำให้พืชไม่สามารถขึ้นได้เลย ดินแดนนี้จึงปราศจากพืชพรรณธรรมชาติ บริเวณที่ปรากฏลักษณะภูมิอากาศแบบนี้ ได้แก่ ทวีปแอนตาร์กติกา และตอนกลางของเกาะกรีนแลนด์ 12.

ภูมิอากาศแบบภาคพื้นสมุทรชายฝั่งตะวันตก marine westcoast climate เนื่องจากพื้นที่อยู่ติดทะเลทำให้ได้รับ อิทธิพลของลมตะวันตก อย่างเต็มที่ ทำให้มีปริมาณน้ำฝนมาก ทำให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย ลักษณะอากาศในฤดูร้อนอากาศอบอุ่น ในฤดูหนาวอากาศเย็นสบาย ฝนตกเกือบตลอดทั้งปี ปริมาณน้ำฝน มากกว่า 750 มิลลิเมตรต่อปี พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าไม้ใบกว้างผลัดใบ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เมเปิล วอลนัท เชสต์นัท โอ๊ก บีซ เบิร์ช แอช สวีท เมเปิล โอ๊ก วอลนัท 8. ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีป Humid continental climate หรือภูมิอากาศแบบภาคพื้นทวีป Moist Continental climate เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ห่างไกลจากทะเล ในฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นเป็นระยะเวลานาน อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งนานถึง 4 เดือน ส่วนในฤดูร้อน อุณหภูมิค่อนข้างร้อน ฝนตกในฤดูร้อนส่วนใหญ่เกิดจากฝนพาความร้อน ในฤดูหนาวมีหิมะตก ปริมาณหยาดน้ำฟ้า 750 มิลลิเมตรต่อปี พืชพรรณธรรมชาติเป็น ป่าไม้ผลัดใบชนิดใบกว้างและป่าที่ไม่ผลัดใบชนิดใบแหลมหรือป่าไม้ผลัดใบผสมป่าสน 9.

ใบงานที่ 1 แบบสรุปทวีปอเมริกาเหนือ – โรงเรียนพรเจริญวิทยา

เขตอากาศแบบไทกา (Taiga Climate) ได้แก่บริเวณรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา ภาคเหนือของประเทศแคนาดา มีลักษณะอากาศที่หนาวจัดเป็นระยะเวลายาวนาน มีหิมะตก ส่วนฤดูร้อนมีระยะสั้นอากาศค่อนข้างเย็น พืชพรรณธรรมชาติ เป็นป่าสน และป่าไม้เนื้ออ่อน 10. เขตอากาศแบบทุนดรา (Tundra Climate) ปรากฏบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรอาร์กติกของรัฐอะแลสกาและแคนาดา รวมทั้งชายฝั่งของเกาะนิวฟันด์แลนด์ ฤดูหนาวมีอากาศเย็นจัด พืชพรรณธรรมชาติเป็นตะไคร่น้ำและมอส 11. ลักษณะอากาศแบบทุ่งน้ำแข็ง (Ice-Cap Climate) คือดินแดนของเกาะ กรีนแลนด์ตอนกลาง มีอากาศหนาวจัด และมีน้ำแข็งปกคลุมตลอดปี พืชพรรณธรรมชาติไม่สามารถเจริญเติบโตได้เลย 12. ลักษณะอากาศแบบที่สูง (Highland Climate) อยู่ทางภาคตะวันตกของทวีป ในเขตภูเขาสูงนี้ อุณหภูมิ ความชื้น พืชพรรณธรรมชาติ เปลี่ยนไปตามความสูงของพื้นที่ ยิ่งสูงมากอากาศจะยิ่งเย็นจัด จนกระทั่งถึงมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ตลอดเวลา

5 ที่ราบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกและชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก (Gult Coast and Atlantic Plain) มีบริเวณตั้งแต่ทางตะวันออกของเทือกเขาแอปปาเลเชียนลงไปทางใต้ถึงอ่าวเม็กซิโก โดยเฉพาะที่ราบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกเป็นเขตที่มีอากาศร้อน จึงเหมาะแก่การปลูกพืชเมืองร้อน เช่น ยาสูบ ข้าวเจ้า ฝ้าย ผลไม้ต่างๆ 4. 6 ที่ราบบนที่สูง (High Plains) ได้แก่ พื้นที่ทางด้านตะวันออกของเทือกเขารอกกี ซึ่งเป็นเขตเงาฝนหรือเขตอับลม ทำให้มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีต่ำ เป็นเขตเหมาะสำหรับปลูกข้าวสาลี โดยใช้เครื่องจักรทุ่นแรงในการเพาะปลูกแบบไร่ขนาดใหญ่

ที่ตั้งทวีปอเมริกาเหนือ

ขนาดพื้นที่ อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีขนาดเนื้อที่ประมาณ 24, 247, 000 ตารางกิโลเมตร มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากทวีปเอเชียและแอฟริกา รูปร่างของทวีปอเมริกาเหนือคล้ายรูปสามเหลี่ยมหัวกลับ คือมีฐานกว้างอยู่ทางเหนือและปลายแหลมอยู่ทางใต้ ความกว้างของทวีปตั้งแต่ช่องแคบเบริงถึงเกาะนิวฟันด์แลนด์ประมาณ 4, 828 กิโลเมตร และส่วนที่แคบที่สุดที่คอคอดปานามา กว้างประมาณ 50 กิโลเมตร 4. ภูมิภาค อเมริกาเหนือแบ่งตามสภาพสังคมวัฒนธรรม มี 2 ส่วน ได้แก่ แองโกลอเมริกาและละตินอเมริกา โดยถือเอาแม่น้ำริโอแกรนด์ (Rio Grande) เป็นพรมแดนระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐอเมริกาเป็นแนวแบ่ง 1. แองโกลอเมริกา (Anglo-America) คือ ดินแดนที่อยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำริโอแกรนด์ ประกอบด้วยประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากชาวอังกฤษ 2. ละตินอเมริกา (Latin-America) คือ ดินแดนของประเทศต่างๆ ที่อยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำริโอแกรนด์ ประชากรส่วนใหญ่สืบเชื้อสายและวัฒนธรรมมาจากสเปนและโปรตุเกส ประกอบด้วย 2. 1 อเมริกากลาง หมายถึง ดินแดนที่อยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำริโอแกรนด์ ได้แก่ เม็กซิโก เบลิซ คอสตาริกา เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส นิการากัว และปานามา 2.

  1. ทวีปอเมริกาเหนือ - Flip eBook Pages 1-35 | AnyFlip
  2. ที่ตั้งทวีปอเมริกาเหนือ
  3. ทวีปอเมริกาเหนือ - Google Docs
  4. ดู บอล ยูโร 2021 ออนไลน์ สด
  5. แผนที่ภูมิศาสตร์อเมริกาเหนือ – งานบูรณาการ 8 กลุ่มสาระ ม.3/ENG

ภูมิอากาศทวีปอเมริกาเหนือ – socialstudy2015

5ที่ราบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกและมหาสมุทรแอตแลนติก ได้แก่ บริเวณทางด้านตะวันออก ของเทือกเขาแอปปาเลเชียน ลงไปทางใต้จนถึงชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก เหมาะแก่การปลูกพืชเมืองร้อน 2. 6ที่ราบบนที่สูงได้แก่บริเวณด้านตะวันออกของเทือกเขารอกกี เป็นเขต เงาฝน ไม่เหมาะที่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมประเภทที่ใช้น้ำมาก แต่เหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกข้าวสาลี 3. เขตหินเก่าแคนาดา ได้แก่บริเวณรอบอ่าวฮัดสันลงมาจนถึงทะเลสาบทั้ง 5 ประกอบด้วยหินเปลือกโลกเก่าแก่ มีอากาศหนาวเย็น ประชากรอาศัยอยู่เบาบาง 4. เขตภูเขาด้านตะวันออก เป็นภูเขาหินเก่า คือเทือกเขาแอปปาเลเชียน มียอดเขาสูงสุด ชื่อ มิตเชล ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะภูมิอากาศของทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาเหนือ มีลักษณะอากาศที่แตกต่างกัน เนื่องจากปัจจัยดังต่อไปนี้ 1. ปัจจัยด้านที่ตั้ง อยู่ในเขตอากาศร้อนใกล้ศูนย์ศูตร จนถึงบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือ ทำให้มีลักษณะอากาศแทบทุกประเภท 2. ปัจจัยด้านลักษณะภูมิประเทศ มีแนวเทือกเขาสูงทางด้านตะวันตก ทอดตัวแนวเหนือใต้ เป็นกำแพงกั้นทางลมและความชื้นจากมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ดินแดนด้านหลังของเทือกเขารอกกี (ด้านตะวันออกของเทือกเขา) มีอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง เป็นทะเลทรายและทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทราย 3.

กลุ่มที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจระดับสูง 2. กลุ่มที่มีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจต่ำ 1. กลุ่มที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจระดับสูง ได้แก่ สหรัฐอเมริกาและแคนาดา ทั้งสองประเทศนี้จัดเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของทวีปและของโลก นอกจากความเจริญก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรมแล้ว ด้านพาณิชยกรรมและด้านเกษตรกรรมก็นับว่ามีความก้าวหน้าสูงด้วยรายได้เฉลี่ยต่อบุคคลอยู่ในระดับสูงเกิน 5, 000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อปี ทั้งสหรัฐอเมริกา และแคนนาดามีระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมหรือทุนนิยม มีการค้าขายแบบเสรีกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย ด้วยกันนอกจากนั้ นสหรัฐอเมริกาและแคนาดาก็มีความสั มพันธ์ทางการค้าด้วยดีมาตลอด 2. กลุ่มที่มีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจต่ำ ได้แก่ ประเทศในกลุ่มอเมริกากลางและประเทศในหมู่เกาะอินดีสตะวันตก ประเทศเหล่านี้จัดเป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทั้ง ทางด้านอุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและเกษตรกรรม รายได้เฉลี่ยต่อบุคคลประมาณ 1, 000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือต่ำกว่านั้น ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม โดยที่บางประเทศก็ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม เช่น คิวบา ปัจจัยทางกายภาพที่มีผลต่อ การกระจายของประชากร ปัจจัยมีอิทธิพลต่อการกระจายของประชากรโลกมี 2 ประการ ดังนี้ 1.

แม่น้ำสายสำคัญของทวีปอเมริกาเหนือ ได้แก่ 1. แม่น้ำมิสซิสซิปปี เป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดของทวีป และสำคัญของประเทศสหรัฐอเมริกา 2. แม่ น้ำโคโรลาโด ไหลผ่านที่ราบสูงโคโรลาโด ทำให้ไหลเชี่ยว กัดเซาะแผ่นดินทำให้เป็นหุบเหวลึก เรียกว่า แกรนแคนยอน อยู่ในรัฐแอริโซนา ทางตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา 3. แม่น้ำริโอแก รนด์ เป็นเส้นแบ่งเขตแดนของกลุ่มแองโกลอเมริกาและกลุ่มละตินอเมริกา และเป็น พรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา กับ ประเทศเม็กซิโก 4. แม่ น้ำเซนต์ลอเรนซ์ เป็นทางน้ำที่เชื่อมจากทะเลสาบทั้ง 5 ไหลลงสู่มหาสมุทร แอตแลนติก เป็น พรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่างประเทศแคนาดา กับสหรัฐอเมริกา 12. ทะเลสาบ ทั้ง 5 ได้แก่ 1. สุพีเรีย 2. มิชิแกน 3. อีรี 4. ฮูรอน 5. ออนเตริโอ รวมกันเรียกว่า เกรตเลกส์ อยู่ในแนวพรมแดนของ แคนาดา และสหรัฐอเมริกา ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นทางน้ำที่เชื่อม ติดต่อกันหมด เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของทวีปอเมริกาเหนือ 13. น้ำตกไนแองการา เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก เป็นทางน้ำเชื่อมจากทะเลสาบอีรี กับออนเตริโอ เขตเมือง บัฟฟาโล ประเทศสหรัฐอเมริกา 14. ทะเลสาบสุพีเรีย เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลก