โรคไข้หวัดใหญ่ บางคนอาจจะคิดว่าเหมือนกันกับโรคหวัด แต่จริงๆ แล้วสองโรคนี้ไม่เหมือนกัน เนื่องจากเกิดจากไวรัสคนละตัว สำหรับ โรคไข้หวัดใหญ่ นั้นเกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา และระบาดไม่บ่อยเหมือนโรคหวัด แต่โรคไข้หวัดใหญ่มีอาการรุนแรงกว่า พบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว เด็กและผู้สูงอายุจะติดเชื้อได้ง่าย เมื่อได้รับเชื้อ อาการเริ่มต้นคือ มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศรีษะ ไอ จาม เจ็บคอ เสียงแหบ น้ำมูกไหล ปวดตา ปวดเมื่อยกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยส่วนใหญ่อาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติได้เองภายในเวลาไม่นาน หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ 3. โรคคออักเสบ เกิดจากเยื่อบุช่องคออักเสบ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส รองลงมาคือเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อย พบการติดต่อได้ในทุกช่วงอายุแต่จะพบมากในเด็ก ส่วนใหญ่แล้วอาการจะไม่รุนแรงคือ เจ็บคอเมื่อกลืนอาหาร แสบลิ้น ไอ จาม ปวดศีรษะและเป็นไข้ แต่ถ้าติดจากเชื้อแบคทีเรียอาการจะรุนแรงมากกว่า คือมีอาการเจ็บป่วยนานกว่า มีไข้สูง เจ็บคอมาก คอแดงและมีจุด เป็นหนองที่คอ รวมถึงอาจมีอาการแทรกซ้อนได้อย่างเช่น หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ ต่อมน้ำเหลืองที่คออักเสบ 4.
การให้ยารักษา โดยกินยาอย่างถูกต้อง คือต้องกินยาให้สม่ำเสมอ กินยาให้ครบตามจำนวน และระยะเวลา ที่แพทย์สั่งยารักษาโรคกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาประมาณอย่างน้อย 4-6 อาทิตย์ แผลจึงจะหาย ดังนั้นภายหลังกินยา ถ้าอาการดีขึ้นห้ามหยุดยา ต้องกินยาต่อจนครบ และแพทย์แน่ใจว่าแผลหายแล้ว จึงจะ ลดยาหรือหยุดยาวได้ 3. การผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบัน มียาที่รักษาโรคกระเพาะอาหารอย่างดีจำนวนมากถ้าให้การรักษาที่ถูกต้อง ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดสำหรับการผ่าตัดอาจทำให้เป็นกรณีที่เกิดโรคแทรกซ้อน 2.
ตลอด 24 ชั่วโมง ถามเลย ที่นี่ ติดตาม GedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่… Facebook: GEDGoodLife Nutroplex: nutroplexclub Twitter: @gedgoodlife Line: @gedgoodlife Youtube: GEDGoodLife ชีวิตดีดี TikTok: @gedgoodlife
โรคคางทูม เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มพารามิกโซ ทำให้ต่อมน้ำลายบริเวณกกหูบวม จึงเป็นที่มาของชื่อโรคคางทูม อาการเริ่มจากปวดศีรษะ เป็นไข้ ปวดในรูหู แก้ม และบริเวณข้างหูบวม อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร บางรายปวดหูมากจนปวดลามไปถึงกรามจนไม่อยากเคี้ยวอาหารหรือดื่มน้ำ ซึ่งไม่ใช่โรคที่อันตรายมากนัก สามารถหายเองได้ภายใน 7-10 วัน 8. โรคหูดข้าวสุก หูดตุ่ม ตุ่มเนื้อเล็กๆ กลมๆ ที่ผิวหนัง มีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุ แต่หูดข้าวสุกเป็นโรคติดต่อที่เกิดมาจากเชื้อไวรัส MCV โดยหูดชนิดนี้จะมีลักษณะ เป็นตุ่มเนื้อขนาดเล็ก กลมใสเหมือนไข่มุก ผิวเรียบเป็นมัน มีสีเดียวกันกับสีผิว มีรอยบุ๋มตรงกลาง เมื่อบีบแล้วจะได้สารสีขาวคล้ายข้าวสุก ไม่สร้างความเจ็บหรือคัน มักพบในบริเวณลำตัว แขน ขา ใบหน้า รักแร้ อวัยวะเพศ โรคหูดข้าวสุกสามารถหายเองได้ภายใน 2-9 เดือนหากร่างกายแข็งแรงและภูมิคุ้มกันดี 9. โรคเริมที่ริมฝีปาก เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นตุ่มบริเวณรอบริมฝีปาก คันและปวดแสบปวดร้อน ติดต่อมาจากเชื้อไวรัส ซึ่งเชื้อนี้แฝงตัวอยู่ได้หลายที่ เช่น น้ำลาย น้ำเหลืองและอสุจิ โรคนี้เป็นโรคที่ไม่รุนแรง สามารถหายเองได้ แต่ข้อเสียคือ จะสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ป่วยนั่นเอง 10.
2559 อีก 57 โรค ทั้งชื่อและอาการ (อ่านประกอบ:) รวมไปถึงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พ. 2559 ให้ช่องทางเข้าออก 68 แห่ง เป็นด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ อาทิ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ จังหวัดกระบี่ ท่าเรือ กรุงเทพฯ ท่าอากาศยานดอนเมือง พรมแดน สังขละบุรีด่านเจดีย์สามองค์ พรมแดนบ้านน้ำพุร้อน จังหวัดกาญจนบุรี พรมแดน บ้านผักกาด พรมแดนบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี เป็นต้น (อ่านประกอบ:)
โรคสัตว์สู่คน มีแนวโน้มจะเกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องคลุกคลีกับสัตว์ และยังบริโภคเนื้อสัตว์แบบไม่ถูกสุขอนามัย รวมถึงจับสัตว์ที่ไม่ควรกินมากิน เช่น ค้างคาว งู ที่สันนิษฐานกันว่าเป็นสัตว์ที่ทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 นั่นเอง ทั้งนี้สหประชาชาติ (United Nations หรือ UN) ออกมาเตือนว่า อัตราการเกิดโรคติดต่อที่แพร่ระบาดจากสัตว์สู่คน จะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุเพราะแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ถูกทำลาย การค้าสัตว์ป่า การทำเกษตรด้วยระบบที่ไม่ยั่งยืน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ล้วนเป็นปัจจัยทั้งสิ้น โรคสัตว์สู่คน คืออะไร?
โรคซาร์ส ติดต่อผ่านน้ำมูก น้ำลาย ผ่านทางการหายใจ ไอ จามรดกัน อาการของโรคซาร์ส ครั่นเนื้อ ครั่นตัว ปวดกล้ามเนื้อและไข้ ต่อมาเกิดอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างรวดเร็วซึ่งมีทั้งไอและหายใจลำบาก อาจจะมีอาการท้องเสียร่วมด้วย อาการอาจจะทรุดลงหลายวันสอดคล้องกับที่ไวรัสในเลือดขึ้นสูงหลังจากแสดงอาการได้ 10 วัน 9. โรคคอตีบ ติดต่อผ่านน้ำ น้ำลาย ผ่านการหายใจ ไอ จามรดกัน อาการของโรคคอตีบ สัญญาณและอาการของคอตีบมักจะเกิดขึ้นหลังจากได้รับเชื้อ 2-5 วัน ซึ่งอาจเกิดอาการเหล่านี้ ได้แก่ - เป็นแผลและมีเยื่อบุสีเทาเกิดขึ้นที่ในลำคอและบริเวณต่อมทอนซิล - มีไข้สูงตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียส ขึ้นไป - หนาวสั่น - รู้สึกเมื่อยล้า อ่อนเพลีย - มีอาการปวดศีรษะ - มีน้ำมูก - มีอาการเจ็บคอ ไอ เสียงแหบ - ต่อมน้ำเหลืองในคอบวม - กลืนอาหารลำบาก หรือรู้สึกเจ็บเวลากลืน - หอบ เหนื่อย หายใจลำบาก 10. คางทูม ติดต่อผ่านน้ำมูก น้ำลาย ผ่านทางการหายใจหรือทานอาหารร่วมกัน อาการของคางทูม โรคคางทูมจะมีอาการผิดปกติที่สังเกตได้คือ ต่อมน้ำลายบริเวณข้างหูเจ็บและบวมอย่างเห็นได้ชัด และปรากฏอาการเบื้องต้นของโรคดังต่อไปนี้ - มีไข้สูง (38 องศาเซลเซียส หรืออาจสูงกว่า) - ปากแห้ง - เบื่ออาหาร - ปวดศีรษะ - ปวดตามข้อ - ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ - เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย 11.
มือ เท้า ปาก รับเชื้อผ่านมือ ของเล่นที่เปื้อนน้ำลายหรือน้ำมูกของผู้ป่วย หรือผ่านทางการหายใจ ไอ จาม รดกัน อาการของมือ เท้า ปาก อาการเริ่มต้นของโรคมือเท้าปากจะคล้ายไข้หวัด คือ มีตุ่มใส หรือแผลร้อนในเกิดขึ้นหลายแผลในปาก และมีอาการเจ็บ มีผื่นแดงหรือตุ่มใส ขนาดเล็กที่บริเวณฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า หรือก้น และมีอาการไข้เป็นระยะเวลา 5-7 วัน 4. เริมที่ปาก ติดต่อผ่านการดื่มน้ำหรือทานอาหารร่วมกัน อาการของเริมที่ปาก - เป็นแผลบวมแดง มีตุ่มพองมีน้ำใส ๆ และรู้สึกคัน ขึ้นบริเวณริมฝีปาก หรือในช่องปาก - มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว - มีอาการปวดหรืออักเสบ แต่จะไม่มากเท่าเกิดบริเวณอวัยวะเพศ - แผลจะแห้งตกสะเก็ดและหายไปเอง 7 -10 วัน 5. อีโบลา ติดต่อผ่านการสัมผัสทางเลือด น้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วย อาการของอีโบลา โรคอีโบลาเป็นโรคเฉียบพลันรุนแรงจากเชื้อไวรัส โดยมากมักจะแสดงออกเป็นไข้เฉียบพลันอ่อนเพลียมาก ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะและเจ็บคอ ตามด้วยอาการอาเจียน ท้องเสีย ผื่นผิวหนัง ไตและตับทำงานบกพร่อง และในบางรายจะพบการตกเลือดทั้งภายในและภายนอก 6. ไข้หวัดใหญ่ ติดต่อผ่านน้ำมูก น้ำลาย ผ่านการหายใจรดกัน อาการของไข้หวัดใหญ่ - มีอาการไข้สูง ตัวร้อน หนาว - ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะที่หลัง ต้นแขน ต้นขา - ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย - เบื่ออาหาร - คัดจมูก มีน้ำมูกใส ๆ ไอแห้ง ๆ - ในเด็กอาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงได้ 7.